Breakfast at Tiffany’s (1961) นงเยาว์นิวยอร์ค

VIDEO

×
Thai NA IMDb 8 คุณภาพ :
Breakfast at Tiffany’s (1961) นงเยาว์นิวยอร์ค

เรื่องย่อ : Breakfast at Tiffany’s (1961) นงเยาว์นิวยอร์ค

ดูหนัง Breakfast at Tiffany’s (1961)

รีวิวและสปอย

“Breakfast at Tiffany’s” เป็นภาพยนตร์โรแมนติกคอมเมดี้ที่สร้างจากนวนิยายของ Truman Capote กำกับโดย Blake Edwards ซึ่งเข้าฉายในปี 1961 เรื่องราวที่เกิดขึ้นในย่านอัปเปอร์อีสต์ไซด์ของนิวยอร์กซิตี้ มุ่งเน้นไปที่ความสัมพันธ์ระหว่างหญิงสาวที่มีเสน่ห์และลึกลับชื่อ ฮอลลี่ โกไลท์ลี (รับบทโดย Audrey Hepburn) และนักเขียนหนุ่มชื่อ โจ สโตรเบล (รับบทโดย George Peppard).

เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง

ฮอลลี่เป็นหญิงสาวที่มีชีวิตที่เต็มไปด้วยสีสัน ใช้ชีวิตอย่างอิสระในนิวยอร์ก โดยมีการใช้ชีวิตอย่างฟุ่มเฟือยและมักจะไปที่ร้าน Tiffany & Co. เพื่อดูเครื่องประดับที่เธอใฝ่ฝัน ในขณะที่โจเป็นนักเขียนที่พยายามหาทางสร้างสรรค์ผลงานของตัวเองระหว่างการใช้ชีวิตในอพาร์ตเมนต์ที่อยู่ข้างๆ ฮอลลี่ ทั้งสองเริ่มพัฒนาความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน ซึ่งทั้งสองต้องเผชิญกับความท้าทายและความไม่แน่นอนในชีวิตและความรัก

ความสัมพันธ์ของพวกเขาถูกตั้งคำถามเมื่อฮอลลี่เริ่มมีความสัมพันธ์กับชายหนุ่มที่มีฐานะทางการเงินที่ดี และโจก็ต้องพยายามทำความเข้าใจถึงความต้องการและความกลัวในการผูกพันของฮอลลี่ เรื่องราวดำเนินไปด้วยอารมณ์ขันที่เผ็ดร้อนและความโรแมนติกที่เข้มข้น

นักแสดงในเรื่อง

  • Audrey Hepburn รับบทเป็น ฮอลลี่ โกไลท์ลี
  • George Peppard รับบทเป็น โจ สโตรเบล
  • Patricia Neal รับบทเป็น เพนนี
  • Buddy Ebsen รับบทเป็น โดนัลด์
  • Martin Balsam รับบทเป็น แจ็ค

คะแนน IMDB และ Rotten Tomatoes

“Breakfast at Tiffany’s” ได้รับคะแนน 7.6/10 จาก IMDB และมีคะแนน 88% จาก Rotten Tomatoes ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความนิยมและการยอมรับจากทั้งผู้ชมและนักวิจารณ์

สรุป

“Breakfast at Tiffany’s” เป็นภาพยนตร์ที่สำคัญในประวัติศาสตร์ของวงการภาพยนตร์ การแสดงที่โดดเด่นของ Audrey Hepburn ทำให้ตัวละครฮอลลี่เป็นหนึ่งในตัวละครที่น่าจดจำที่สุดในยุคทองของฮอลลิวูด ความสวยงามของภาพยนตร์และเพลงประกอบที่ไพเราะทำให้มันกลายเป็นคลาสสิกที่ยังคงมีอิทธิพลในวรรณกรรมและวัฒนธรรมป๊อปปัจจุบัน

ด้วยการนำเสนอเรื่องราวของความรักและการค้นหาตัวตนในเมืองที่วุ่นวาย “Breakfast at Tiffany’s” ไม่ใช่แค่เพียงภาพยนตร์ แต่ยังเป็นการสื่อสารถึงมุมมองของชีวิตและความรักที่ทุกคนสามารถเชื่อมโยงได้ แม้ว่าจะมีความซับซ้อนในตัวละคร แต่ท้ายที่สุดแล้วภาพยนตร์นี้ยังคงเป็นการเฉลิมฉลองความรักและความมุ่งมั่นในชีวิตที่ทุกคนสามารถพบเจอได้ในวันหนึ่ง